สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย ไทย จัดพิธีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานชั่วคราวที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ – วันที่ 19 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 มีพันธกิจหลักในการดำเนินงานกิจกรรมโครงการต่าง ๆ เพื่อการขับเคลื่อนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความเข้าใจที่ดีในการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นปึกแผ่นด้วยสันติสุขในกลุ่มประเทศชาวพุทธแถบทวีปเอเชีย โดยอาศัยหลักพระพุทธศาสนาเป็นแกนกลางในการพัฒนาให้เกิดความเจริญอย่างยั่งยืนและมั่นคงบนเส้นทางอริยมรรค
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เป็นองค์กรอิสระไม่หวังผลกำไร ก่อกำเนิดจากการรวมตัวของพุทธบริษัทผู้รู้พระคุณอันประเสริฐแห่งพระรัตนตรัย ร่วมกันทำงานอย่างมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา ด้วยการปลูกฝังศรัทธาในพระพุทธศาสนาผ่านกิจกรรมโครงการต่างๆ โดยอาศัยความร่วมมือภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐบาล องค์กรเอกชน คณะบุคคล และบุคคล เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และด้วยตระหนักถึงวิกฤตปัญหาที่มวลมนุษยชาติต้องเผชิญอันสามารถแก้ไขเบ็ดเสร็จได้ด้วยพุทธธรรม สถาบันโพธิคยาฯ จึงดำเนินงานตามพันธกิจดังกล่าวต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลา 17 ปี และมีผลงานโดดเด่นเป็นที่รู้จัก คือ งานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง (ไทย-เมียนมา-เวียดนาม-สปป.ลาว-กัมพูชา) ซึ่งจัดผ่านไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ตามรอยพระอริยสงฆ์ลุ่มน้ำโขง จัดขึ้นในปีพ.ศ. 2560 ครั้งที่ 2 ธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง พุทธศาสตร์การทูตสู่สันติภาพโลก จัดขึ้นในปีพ.ศ. 2562
โครงการธรรมยาตราฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเดินตามรอยบาทองค์พระศาสดาในการศึกษาปฏิบัติธรรม เพื่อรวมพลังสายธารศรัทธาของพุทธบริษัทลุ่มแม่น้ำโขงให้มีความสมัครสมานสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ในฐานะที่มีสมเด็จพ่อองค์เดียวกัน คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า มีแม่น้ำโขงเป็นดุจแม่ ที่คอยหล่อเลี้ยงคนในภูมิภาคนี้ ให้ดำรงวิถีชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคง และเพื่อประกาศพระพุทธศาสนา สืบสานพุทธปณิธานของพระพุทธองค์ให้ดำรงคงอยู่ตลอดไป เก็บรักษาไว้ให้เป็นมรดกทางธรรมแก่อนุชนคนรุ่นต่อไป
อนึ่ง ความสำเร็จของโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดินทั้ง 2 ครั้งสามารถสร้างพลังศรัทธา และความสามัคคีของประชาชนทั้ง 5 ประเทศ ให้เกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวาง และยิ่งใหญ่ จนนำมาสู่โครงการธรรมยาตรา ครั้งที่ 3 ในชื่อ ธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่เคยมีผู้ใดทำสำเร็จมาก่อน เพราะเป็นธรรมยาตราเชื่อมดินแดนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากมหาธรรมนทีคงคาอินเดีย สู่แผ่นดินแห่งพุทธธรรมลุ่มน้ำโขงไทย นำเสด็จฯ โดยพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จากพิพิธภัณท์สถานแห่งชาตอินเดีย ตามเสด็จฯ โดยพระสารีริกธาตุของอัครสาวกซ้าย-ขวา พระสารีบุตร พระมหาโมคคลานะ จากมหาสถูปสาญจี อินเดีย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม พ.ศ.2567 โครงการฯ ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 รัฐบาลอินเดีย รัฐบาลไทย เพื่อเชื่อมต่อและเผยแผ่พลังศรัทธาของประชาชนในพุทธธรรมของทั้ง 2 ภูมิภาคให้มั่นคงสืบไป สร้างอานิสงส์ของหลักธรรมให้เกิดพลังสามัคคี และความดีของมวลมนุษยชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติบนหลักปรัชญาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นโอกาสให้ประชาชนได้กราบสักการะ รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการเสด็จฯ ขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประทานพรโปรดพุทธศาสนิกชน หลังจากว่างเว้นไปเกือบ 1 ศตวรรษ การเสด็จฯ ของพระบรมสารีริกธาตุในครั้งนี้นั้นเปรียบประดุจเสด็จโดยพระพุทธองค์เอง การถวายการรับเสด็จครั้งนี้จึงเปิดโอกาสให้พุทธบริษัทสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันในด้านต่าง ๆ อาทิ ศาสนาพิธี และศาสนาธรรม เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธรรมะให้เกิดขึ้น พลิกโลกด้วย “ธรรมวิชัยสู่ศตวรรษแห่งธรรม” “ใช้ธรรมเป็นอำนาจ ไม่ใช้อำนาจเป็นธรรม” เพื่อสืบทอดความรัก ความสามัคคี และสร้างสันติสุขโดยธรรมให้เกิดขึ้นในแผ่นดินเอเชีย อันเป็นแผ่นดินกำเนิดของพระพุทธศาสนากำเนิดและประดิษฐานอย่างมั่นคงเป็นเวลากว่า 2600 ปีมาแล้ว
Tags
พระบรมสารีริกธาตุ