ชุมชนชาวเลโบราณ "อูรักลาโว้ย" คนกลุ่มแรกที่ค้นพบเกาะลันตา และ"ศาลเจ้าโต๊ะบาหลิว" ศูนย์รวมความเชื่อ ความศรัทธาที่สืบทอดมากว่า 100 ปี

วันที่ 6 กันยายน 2565 ตื่นแต่เช้า เพราะวันนี้มีนัดกับ ททท.กระบี่ หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ ที่จะนำสื่อเดินทางไปแถลงข่าว งานวิ่ง“RUN FOR LANTA 3” ณ อาคารท่าเทียบเรือชุมชนบ้านศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งได้เขียนไปก่อนหน้านี้แล้ว เป็นที่น่าสังเกตุหากเป็นงานของ ททท.กระบี่ แทบทุกงาน สื่อมวลชนจะไปกันมาก เพราะเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี ตั้งแต่จัดรถให้ อาหารการกิน รวมถึงการอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน มีสื่อมวลชน ไปกันถึง 19 คน ใช้รถยนต์ตู้ถึง 4 คัน ตั้งแต่ ผอ.ททท.กระบี่ ผช.ททท.ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ให้การดูแลเป็นอย่างดี 








หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ผอ.อุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานกระบี่ เจ้าของฉายา #นี่เซี้ยนไง ก็นำสื่อมวลชนไปดูวิถีชุมชนโต๊ะบาหลิว หรือชุมชนชาวเลโบราณแห่งเกาะลันตา นอกจากนี้ได้รับเกียรติยิ่งจาก นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอเกาะลันตา  นายพงศ์สวัสดิ์ ดำรงอ่องตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลศาลาด่าน พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ทต. นายวิชิต ยะลา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา รวมตลอดถึงผู้ร่วมงานแถลงข่าวงาน RUN FOR LANTA ครั้งที่ 3 ให้การต้อนรับและนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชม ให้ข้อมูล และติดต่อประสานให้มีการบรรเลง วงรำมะนา ผู้เฒ่า ผู้แก่ร้องรับขับขานบทเพลงพื้นบ้านภาษาชาวเล สลับกับเต้น ร้องรำ เป็นที่ครึกครื้นเพื่อต้อนรับคณะสื่อมวลชน ก็ขอถือโอกาสขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ 
#อยากแนะนำ ให้ปักหมุดที่ชุมชนบ้านโต๊ะบาหลิว... นับตั้งแต่ก้าวแรก ที่เดินข้ามสะพานทางเดินได้เห็นระบบนิเวศป่าชายเลน พร้อมกับสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเลอูรักลาโว้ยที่ ใช้ชีวิต อยู่กับทะเลอย่างเรียบง่าย ใครที่ชอบถ่ายภาพ คงได้กดชัตเตอร์กันเพลิน ด้านติดชายทะเล มองเห็นเรือหางยาว จอดทอดสมอเป็นแนว สำหรับออกไปจับ ปู ปลา หอย บนเรือมีไซขนาดใหญ่ มีลอบขนาดใหญ่ใช้ทางใบมะพร้าวสด หรือไม่ก็ทางใบเต่าร้าง ขัดแตะไว้ด้านใน สำหรับนำไปวางจับสัตว์น้ำ ได้ความรู้มาว่าเมื่อทางใบมะพร้าวถูกแช่น้ำทะเลก็มีกลิ่นเปรี้ยว เป็นที่ชื่นชอบของสัตว์น้ำและเข้าไปในไซในที่สุด นับเป็นภูมิปัญญาของ "ลูกเล " ...มองไปในทิศ  11 นาฬิกา มองเห็นสะพานสิริลันตา สะพานเชื่อม 2 เกาะ ระหว่าง ลันตาน้อย กับ ลันตาใหญ่ เป็นสะพานเชื่อมเกาะแห่งแรกของประเทศไทย ได้อย่างชัดเจน ขวามือจะเป็นบ้านเล็กๆสร้างด้วยไม้ ใต้ถุนสูง ตั้งอยู่ริมทะเลที่น้ำทะเลขึ้นถึง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มองแล้วคล้ายผลงานศิลปิน บางบ้านกำลังซ่อมอวน เครื่องมือหากิน ก่อไฟปิ้งปลา หุงหาอาหารไว้สำหรับมื้อถัดไป เป็นวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คนในชุมชน ได้ยินการใช้ภาษา ชาวเลอูรักลาโว้ยย ที่ใช้กันเป็นภาษาหลักในชีวิตประจำ 
ทราบมาว่าชายร่างเล็กอารมณ์ดี คือโต๊ะหมอ ชื่อ มะดิเอ็น ช้างน้ำอายุ​ 83 วันนี้สวมแว่นตาดำ เป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรมต่างๆที่สำคัญสามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณบรรพบุรุษ ชาวเลอูรักลาโวยยได้ 
พิธีกรรมที่ว่า ได้เเก่ พิธีกรรมลอยเรือ ”ปลาจั๊ก จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี ปีละ 2 ครั้งในเดือน ตุลาคม สำหรับในปีนี้ (2565) ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2565 และช่วงเดือนพฤกษาคม 




ชุมชนชาวเลเผ่าอูรักลาโว้ยยย เป็นชุมชนขนาดเล็กของกลุ่มชาวไทยใหม่ แต่เดิมเมื่อประมาณปี พ.ศ.2444 มีชาวเลอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ประมาณ 3 – 4 หลังคาเรือน และค่อยๆ ขยับขยาย จนปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 35 หลังคาเรือน โดยคนส่วนใหญ่ยึดอาชีพประมงเป็นหลัก 


สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ได้พระราชทานชื่อเรียกชาวเลว่า ชาวไทยใหม่ และพระราชทานนามสกุล 5 นามสกุล ได้แก่  ประมงกิจ หาญทะเล  ทะเลลึก  ชาวน้ำ  และช้างน้ำ  โดยชาวเลที่ภูเก็ตจะใช้นามสกุล “ประมงกิจ”  ส่วนชาวเลที่เกาะลันตามี 2 นามสกุล ชาวบ้านสังกะอู้ เกาะลันตาจะใช้นามสกุล “ทะเลลึก” ส่วนชาวบ้านที่ชุมชนโต๊ะบาหลิว ในไร่ และคลองดาว ใช้นามสกุล “ช้างน้ำ” 
#เทศบาลตำบลศาลาด่าน #ชุมชนโต๊ะบาหลิว #เกาะลันตา



ไทยทราเวลเพรส NEWS

สำนักงาน ไทยทราเวลเพรส THAI TRAVEL PRESS ------- สื่อมวลชนการท่องเที่ยวไทย THAI TOURISM NEWS 📧📨 thaitravelpress@gmail.com

แสดงความคิดเห็น

สำนักงานไทยทราเวลเพรส THAI TRAVEL PRESS

ใหม่กว่า เก่ากว่า

ค้นหาในเว็บ