เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ณ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี พร้อมด้วยผู้บริหาร บุคลากร นักศึกษา อดีตอาจารย์และข้าราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีถวายราชสักการะและทำบุญ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ เนื่องใน "วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” รัชกาลที่ 3 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐล้ำเลิศด้วยพระกฤษดาภินิหาร และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณธิคุณล้นพันที่ทรงปกแผ่พสกนิกรชาวไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข
ซึ่งในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี ได้กล่าวคำประกาศสดุดีน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ เนื่องใน "วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” ว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงมีพระบรมราชคุณูประการแก่ประเทศและประชาชนเป็นล้นพ้นที่จะพรรณนาได้ ทรงทำนุบำรุงการพาณิชย์นาวี และมีการติดต่อค้าขายกับนานาประเทศอย่างกว้างขวาง รายได้หลั่งไหลเป็นงบประมาณบำรุงแผ่นดิน ข้าราชการได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเงินเดือนเป็นครั้งแรก ทรงเพิ่มพูนรายได้ของประเทศด้วยการปรับปรุงระบบการเก็บภาษีอากร ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์พระอารามใหม่ มีลักษณะศิลปกรรมงดงามวิจิตร เป็นศรีสง่าแก่พระนคร ทรงสร้างคำภีร์พระไตรปิฎก อันเป็นหัวใจของการศึกษาพระธรรมบท ทรงเล็งเห็นว่าการศึกษาเป็นความเจริญของบ้านเมืองและประชาชน จึงโปรดให้จารึกความรู้นานาชนิดไว้ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์
เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษาอย่างกว้างขวาง จนกล่าวกันว่า วัดโพธิ์ คือ มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย ในส่วนการบำรุงรักษาความมั่นคงของประเทศ ทรงยึดหลักการรักษาศักดิ์ศรีของประเทศเป็นสำคัญ ทรงทำลายฝิ่น เพื่อป้องกันพสกนิกร น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยแผ่นดินล้นพ้นสุดที่จะคณานับได้ ทรงจัดสรรพระราชทรัพย์พระราชทานไว้ทำนุบำรุงพระอาราม และพระราชทรัพย์พระราชทานไว้แก่แผ่นดิน ซึ่งเก็บรักษาไว้ในถุงแดงเป็นจำนวนหลายหมื่นชั่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาเป็นค่าชดใช้แลกเปลี่ยนอธิปไตยของชาติ ในกรณีพิพาทดินแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อ ร.ศ.112 อันเป็นวิกฤตการณ์ที่คับขันล่อแหลมในสมัยนั้นอย่างยิ่งยวด จึงอาจกล่าวได้ว่า ถ้ามิใช่พระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานพระราชทรัพย์ไว้แล้ว ชาวไทยทั้งมวลจะภาคภูมิในความเป็นชาติเอกราชอย่างสง่าผ่าเผยเช่นปัจจุบันนี้มิได้ พระราชกรณียกิจตลอดเวลา 27 ปีแห่งการครองราชย์ ทรงสร้างสรรคุณประโยชน์อเนกอนันต์ อันเป็นรากฐานแห่งความเจริญวัฒนาทั้งสิ้น
----------------------------------------
#สื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
กนกรัตน์ ศรียาภัย /ข่าว
สมยศ นุ่นจำนงค์ /ถ่ายภาพ
เทพรวี ทวีเฉลิมดิษฐ์ /ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์