เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้เริ่มการประชุมโดยการชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่ภาคการท่องเที่ยวกำลังเผชิญ อาทิ ปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มลดลง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย รวมถึงสภาวะการท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ช่วง low season ซึ่งสิ่งเหล่านี้ภาครัฐตระหนักดีว่า ได้สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และประชาชนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
นางสาวแพทองธารฯ กล่าวต่อว่า เพื่อรับมือกับปัญหาและปูรากฐานในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการท่องเที่ยวและบริการไทย รัฐบาลจะเร่งผลักดันมาตรการเพื่อป้องกันปัญหา และกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทั้ง 5 ด้านได้แก่
1) ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ยกระดับการจัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ให้สามารถกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยได้จริง มีตัววัดผลที่ชัดเจน รวมถึงตรวจสอบและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของประเทศในโซเชียลมีเดีย
2) ยกระดับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยต้องเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ท่องเที่ยวให้แล้วเสร็จ กวดขันการปฏิบัติติงานของตำรวจท่องเที่ยวให้รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ตลอดจนเร่งปราบปรามผู้ใช้อิทธิพลที่ผูกขาดการบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
3) แก้ไขปัญหาการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ตั้งแต่การบริการตรวจคนเข้าเมืองให้มีความรวดเร็ว จัดระเบียบการใช้บริการขนส่งสาธารณะในพื้นที่สนามบิน เร่งสร้างพื้นที่เพื่อการสูบบุหรี่ระหว่างการ Transit ตลอดจนเน้นย้ำให้มีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อสำรวจและแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่โดยด่วน
4) เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานค่าโดยสารสำหรับสายการบินราคาประหยัดอย่างมีประสิทธิภาพ และเร่งแก้ปัญหาการจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมแบบ Mass Transit รวมถึงเร่งเตรียมเชื่องโยง 3 สนามบิน (กระบี่ พังงา ภูเก็ต)
5) สร้างกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงวางรากฐานการพัฒนาข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการวางแผนการให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการนักท่องเที่ยว
โดยมาตรการและการขับเคลื่อนทั้ง 5 ด้าน จะต้องถูกผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ และเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ทุกหน่วยงานจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย และขอให้มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินการทุกเรื่องอย่างชัดเจน และมารายงานผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเป็นระยะ
ท้ายสุดนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอให้ทุกหน่วยงานผนึกกำลังในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือและเดินหน้าเคียงข้างผู้ประกอบการและประชาชน ให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาเติบโตและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยต่อไป
#amazingthailand