เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการ ททท. ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ พร้อมด้วยนางมาฆวดี สุมิตรเหมาะ เอกอัคคราชทูตไทยประจำกรุงธากา ผู้บริหาร ผู้ประกอบการและสื่อมวลชนไทย เดินทางเยือนราชอาณาจักรเยือนภูฏานอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน H.E. Dasho Tshering Tobgay โดยเข้าหารือแนวทางการส่งเสริมการตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพแบบ Two Ways Marketing เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพชาวยุโรป อเมริกาและตะวันออกกลางร่วมกันในรูปแบบการส่งเสริมการขายในรูปแบบ Bundle Package - Two Kingdoms, One Destination ตามพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวยังภูฎาณ 5-10 วัน ให้เดินทางต่อมายังประเทศไทย 5-15 วัน ทั้งหารือถึงแนวทางการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการโดยการศึกษาแนวทางและกระบวนการจัดเก็บภาษีการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Fee: SDF) จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 100 เหรียญสหรัฐ/วัน
ตามนโยบายการท่องเที่ยว(High Value, Low Volume ของภูฏานสู่การจัดเก็บ Tourism Fee ของประเทศไทย
จากนั้นรัฐมนตรีฯ นำคณะผู้บริหารเข้าพบ H.E. Lyonpo Namgyal Dorji, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการจ้างงานเพื่อร่วมหารือแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ระหว่างสองประเทศให้เติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันให้เกินการเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ ด้วยการร่วมกันสนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยการเข้าร่วมงาน Thailand Travel Mart Plus 2025 การจัดกิจกรรม B2C ในประเทศไทย การนำคณะสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสองประเทศ และการนำคณะนักแสดงเผยแพร่วัฒนธรรมสร้างการรับรู้ประเทศไทย ก่อนการการเสด็จฯ เยือนภูฎานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2568 นี้
ไทยและภูฏานสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับพระราชวงศ์ รัฐบาลและประชาชน ซึ่งปีนี้ครบรอบ 36 ปี นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดำเนินกิจกรรมตามเอกสารลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการท่องเที่ยวไทย-ภูฎาน ฉบับแรกตั้งแต่ปี 2554 จนถึงฉบับปัจจุบันที่ได้ร่วมลงนามเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 โดย ททท. คาดว่าจากการหารือร่วมกับผู้บริหาร DrukAir ในระหว่างการเยือนในครั้งนี้ จะสามารถผลักดันให้นักท่องเที่ยวคุณภาพที่เดินทางท่องเที่ยวภูฎานกว่าปีละ กว่า 200,000 คน ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยทั้งก่อนหรือยังการเดินทางท่องเที่ยวภูฎาน โดยผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้แทนจาก สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ที่ร่วมเดินทางด้วยในครั้งนี้จะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลและผู้ประกอบการภูฎานต่อไป
#AmazingThailand
#BelieveBhutan