วันที่ 28 ตุลาคม 2564 เวลา 08.00 น. ณ ห้องประชุม 1 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.นิวัฒน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 6 (THE SIXTH ASEAN MINISTERIAL MEETING ON SPORTS (AMMS-6) ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) โดยมี H.E. Edwin Tong Minister Ministry of Culture, Community and Youth เป็นประธานการประชุม
รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 6 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ในวันนี้ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบในทุก ๆ ด้าน ไม่ต่างกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยในส่วนของรัฐบาลไทย ได้ดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มแข็ง รวมทั้ง ได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาต่อทุกภาคส่วน อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งเน้นการดำเนินภารกิจ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย ในการมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงอายุได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังมีความรุนแรง ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน การป้องกันโรค ตลอดจน การส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง เป็นสำคัญ
จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการกีฬา นั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ได้พัฒนาแนวทางจัดการแข่งขันกีฬา ที่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ช่วยกำหนดแนวทางการจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งเรียกว่า Bubble and Sealed ตาม “แนวทางการจัดกิจกรรมในสถานที่กักกันเฉพาะองค์กร” สำหรับเป็นมาตรฐานการจัดการแข่งขันกีฬา ตามมาตรการทางสาธารณสุขให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด จากการแพร่ระบาดของโรค และในขณะเดียวกัน ยังสามารถดำเนินกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากแวดวงกีฬานานาชาติ ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ หลายต่อหลายรายการ ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งประเทศไทย ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไม่นาน อาทิ
- การแข่งขัน “S – A – T Thailand World อินวิเทชั่น 2020” เมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่จังหวัดภูเก็ต และศรีสะเกษ
- การแข่งขัน “HSBC Badminton World เฟดเดอเรชั่น World Tour”
รวม 3 รายการ เมื่อเดือนมกราคม 2021 ที่กรุงเทพมหานคร
- การแข่งขันจักรยานนานาชาติอีกหลายรายการ ที่จัดขึ้นในระบบปิดแบบไม่มีผู้ชม ได้แก่ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” รายการจักรยานทางไกลนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ “เดอะ ปรินเซส มหาจักรี สิรินธร คัพ Tour of Thailand 2021” เมื่อเดือนเมษายน 2021 และการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ “แทรค Asia Cup 2021” เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
- การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดชิงแชมป์โลกและโอลิมปิก รอบคัดเลือก รวม 3 รายการ ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม 2021 ที่จังหวัดนครปฐม
- การแข่งขันวอลเลย์บอลสโมสรชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ในเดือนตุลาคม 2021 ที่จังหวัดนครราชสีมา
ความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬารายการต่าง ๆ ดังกล่าว ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย สามารถเป็นเครื่องยืนยัน ถึงความมีศักยภาพของแนวทางจัดการแข่งขันในรูปแบบใหม่ของไทย ที่สามารถดำเนินการจริง จนเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2021 นี้ ประเทศไทยยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เพิ่มเติมอีกหลายรายการ เช่น
- การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ในเดือนพฤศจิกายน ที่จังหวัดภูเก็ต
- การแข่งขันวิ่งเทรลระดับนานาชาติ Thailand By UTMB 2020 ในเดือนธันวาคม ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
- การแข่งขัน Asian Golf Tour 2021 ในเดือนธันวาคมเช่นกัน ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเป็นการแข่งขันภายใต้มาตรการ Phuket Sandbox ที่เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการ แต่ยังคงมาตรการทางสาธารณสุขโดยเคร่งครัด และที่สำคัญจะเป็นการใช้กีฬาเป็นเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี
- การแข่งขันกรีฑาประเภทลาน สะสมคะแนนโลก รายการ Golden Fly ซีรีส์ ที่จะเป็นการรวมตัวของนักกรีฑาประเภทลานระดับโลก ในเดือนสุดท้ายของปี ที่ภูเก็ต
ในส่วนของนโยบาย และแนวทางพัฒนาการกีฬาของไทยในภาพรวม นั้น ไทยได้มีการจัดทำแผนพัฒนากีฬาชาติ ที่มีความครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้แก่ :
• กีฬาขั้นพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมและพัฒนา การออกกำลังกายสำหรับเด็กและเยาวชน
• กีฬามวลชน เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม
• กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ เพื่อพัฒนานักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาทุกระดับ มุ่งสู่กีฬาอาชีพ
ตลอดจน การส่งเสริมธุรกิจและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกีฬา ซึ่งล้วนเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับ “แผนงานอาเซียนด้านกีฬา ปี 2021 ถึง 2025” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ไทยเป็นผู้นำในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมในเยาวชน ผ่านกิจกรรมกีฬาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นบริบทหลักประการหนึ่งของกีฬา ต่อผลลัพธ์ด้านการพัฒนาสันติภาพ ที่สอดคล้องกับปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน
นอกจากนั้นประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับ “แผนความร่วมมือประจำปี อาเซียน - ฟีฟ่า” เพื่อให้การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยภูมิภาคของเรา ประสบความสำเร็จ และยังถือเป็นการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้กีฬาเป็นกลไกสำคัญ เพื่อพัฒนาความมั่นคงทางสังคมของอาเซียนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จากแนวทางการดำเนินการในภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทย ดังกล่าวข้างต้น หากนับรวมความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด กับอาเซียนและประชาคมโลกบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน ตาม “แผนงานอาเซียนด้านกีฬา ปี 2021 ถึง 2025” ก็จะถือเป็นการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการกีฬาของอาเซียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้กีฬาเป็นเครื่องมือช่วยสร้างมิตรภาพ พัฒนาความสงบสุข บูรณาการความเป็นหนึ่งเดียวของภูมิภาค สู่การบรรลุ “วิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียน ปี 2025”
สุดท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือด้านกีฬาในภูมิภาคอาเซียน ที่จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็งและใกล้ชิดกัน มากยิ่งขึ้นในอนาคต จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน ให้กีฬาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คนชาวอาเซียนอย่างแท้จริง มีการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคน พัฒนาสังคม และพัฒนาประเทศของชาติสมาชิกอาเซียน อย่างสอดคล้องกับเป้าหมายของ “ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน” ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ขจัดปัญหาความยากจน ปลอดภัยจากยาเสพติด และส่งเสริมสุขภาพที่ดี ได้อย่างยั่งยืน